อาการขี้หลงขี้ลืมนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยเป็นภาวะอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่โรค ซึ่งเป็นการลืมในสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน มักเป็นเรื่องปัจจุบัน และเป็นความจำในระยะสั้น
แก้อาการขี้หลงขี้ลืม
หลายท่านเป็นกันไหมคะ กับการลืมโน้นลืมนี่อยู่เป็นประจำ เช่น ลืมล็อคบ้าน ลืมล็อครถ ลืมกระเป่าสตางค์ ลืมโทรศัพท์ หรือแม้กระทั้งบางทีหาแว่นสายตาแทบตายสุดท้ายอยู่บนศีรษะก็น่าจะเคยเป็นกันบ้าง โดยอาการขี้หลงขี้ลืมนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยเป็นภาวะอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่โรค ซึ่งเป็นการลืมในสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน มักเป็นเรื่องปัจจุบัน และเป็นความจำในระยะสั้น หากใครคิดว่า เอ๊ะ!! ตัวเรามีปัญหาด้านสมองรึเปล่านะ ลองทำตามวิธีการจัดการกับเจ้าอาการขี้หลงขี้ลืมที่เรานำมาฝากกันดูก่อนค่ะ รับรองว่าจะทำงาน อ่านหนังสือ หรือใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างฉลุยแน่นอนค่ะ
การวางข้าวของให้เป็นที่เป็นทาง
การเก็บของให้เข้าที่เข้าทางอยู่เสมอ เช่น กุญแจบ้าน กุญแจรถ เก็บไว้ในลิ้นชักตรงตู้ข้างประตูหน้าบ้าน เมื่อเราต้องการจะหยิบมาใช้ก็จะช่วยให้เรานึกออกขึ้นมาได้อย่างทันที หากเราวางทิ้งไว้ระเกะระกะ พอจะใช้งานก็ต้องนึกทีว่า เอาไปวางไว้ตรงไหน บางทีก็หาไม่เจอทำให้เสียเวลาหาเป็นอย่างมาก
การจดบันทึกความจำ
ในแต่ละวันเราทำอะไรไปบ้าง จดแผนการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน แต่ละอาทิตย์ หรือแต่ละเดือน ข้อมูลๆ เล็กๆ น้อยๆ เบอร์โทรศัพท์คนสำคัญ ที่อยู่ วันเกิด ข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่เป็น โรงพยาบาลที่สามารถใช้สิทธิ์ได้ คำคม สิ่งที่คุณพบเห็นมาในแต่ละวัน สิ่งที่คุณรู้สึกชอบหรือเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเอง การจดนี้เป็นการช่วยย้ำให้สมองจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ถ้านึกไม่ออกก็สามารถเปิดอ่านบันทึกได้ตลอดเวลา
การเขียนโน๊ต Post-It ช่วยได้
เขียนข้อความช่วยเตือนลงใน Post-It แปะไว้ในตามที่ต่างๆ ที่คุณคิดว่าจะผ่านสายตาบ่อยๆ เช่น หน้าตู้เย็น หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง บริเวณโต๊ะทำงาน หรือจะหาบอร์ดมาไว้ใช้เพื่อการนี้โดยเฉพาะก็ได้ การเขียนข้อความแปะไว้นี้จะเป็นการช่วยเตือนความจำคุณแบบง่ายๆ เดินผ่านปุ๊บเหลือบไปเห็นข้อความนึกออกปั๊บ
อาหารบำรุงสมอง
เนื่องจากการบริโภคมื้ออาหารแต่ละวันในปัจจุบันได้เปลี่ยนไป เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเร่งรีบ อาจทำให้บริโภคอาหารในแต่ละวันไม่ครบ 5 หมู่ จึงควรรับประทานวิตามินเสริมที่มีส่วนช่วยบำรุงประสาทและสมอง ซึ่งก็มีหลากหลายชนิดหลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกรับประทานให้เหมาะสมกับร่างกาย
ไม่ควรทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกัน
การเป็นมนุษย์ Multitasking ที่ทำกิจกรรมต่างๆ ภายในเวลาเดียวกันเช่น ขับรถไปคุยโทรศัพท์ไปแถมยังเปิดเพลงฟังอีกด้วย อาจทำให้สมาธิส่วนนั้นเสียไปทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ตั้งแก๊สอุ่นอาหารไว้แล้วก็ไปซักผ้าต่อ อาจลืมอาหารที่อุ่นไว้ทำให้อาหารไหม้ได้ ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหลายๆ อย่างพร้อมกันเพื่อไม่เป็นการทำลายสมาธิในการจดจำ
ฝึกบริหารสมอง
ควรบริหารสมองอยู่เป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะการเสื่อมของสมอง ซึ่งก็ทำได้ง่ายโดยการลองทำกิจกรรรมใหม่ๆ เป็นการเพิ่มทักษะให้สมอง ทำให้สมองได้รับการพัฒนามากกว่าที่การทำอะไรแบบเดิมๆ ซ้ๆ จำเจ กิจกรรมที่การพัฒนาสมอง เช่น การอ่านหนังสือ การเล่นดนตรี การเล่นเกม หรือทำสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ฯลฯ การทำกิจกรรมเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนพาสมองไปออกกำลังกายนั้นเอง ทำให้กระฉับกระเฉงขึ้น แอคทีฟขึ้น ความจำก็ลื่นไหลขึ้นตามไปด้วย
เป็นยังไงบ้างค่ะกับวิธีง่ายๆ ในการแก้ปัญหาอาการขี้หลงขี้ลืม แต่ทางที่ดีที่สุดการคือ เมื่อเราต้องทำสิ่งใดขึ้นมาสักอย่างจำเป็นที่จะต้องใช้สติให้มาก เคยได้ยินกันมาใช่ไหมคะว่า “สติมาปัญญาเกิด” หากเรามีสติรู้เท่าทันกับสิ่งที่ทำ ค่อยๆ ทำกิจกรรมแบบช้าๆ ไม่รีบร้อน ก็จะสามารถช่วยให้เราจดจำสิ่งต่างๆ ที่ทำไปได้อย่างดีเยี่ยม หลีกไกลจากอาการขี้หลงขี้ลืมแน่นอนค่ะ